ภาษีทางตรง และภาษีทางอ้อม คืออะไร? ทำไมต้องจ่าย?
ภาษีทางตรง คืออะไร?
ภาษีทางตรง คือ ภาษีที่ผู้มีหน้าที่เสียภาษีต่างๆ ต้องเป็นรับเป็นภาระภาษีไว้ทั้งหมด ไม่สามารถผลักภาระให้กับผู้อื่นได้เช่น ภาษีเงินได้นิติบุคคล ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ภาษีเงินได้ และภาษีโรงเรือนและที่ดิน เป็นต้น
ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา เป็นภาษีทางตรงซึ่งที่จัดเก็บตามบทบัญญัติประมวลกฎหมายรัษฎากร จัดเก็บจากเงินได้ทุกประเภท ตามหลักเกณฑ์เงินสด หากเงินได้ประเภทใดที่ได้รับ การยกเว้นไม่ต้องเสียภาษีนั้น จะต้องบัญญัติไว้โดยกฎหมายว่าเงินได้ประเภทนั้นได้รับการยกเว้น
หน่วยงานที่จัดเก็บภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา คือ กรมสรรพากร
ภาษีเงินได้นิติบุคคล ภาษีที่จัดเก็บจากบุคคลทั่วไป หรือจากหน่วยภาษีที่มีลักษณะพิเศษตามที่กฎหมายกำหนดและ
มีรายได้เกิดขึ้นตามเกณฑ์ที่กำหนดโดยปกติ จัดเก็บเป็นรายปี รายได้ที่เกิดขึ้นในปีใดๆ ผู้มีรายได้มีหน้าที่ต้องนำไป
แสดงรายการตนเองตามแบบแสดงรายการภาษี
ภาษีทางอ้อม คืออะไร?
ภาษีทางอ้อม คือ เป็นภาษีที่ถูกเรียกเก็บจากสินค้าและบริการก่อนที่จะไปถึงลูกค้า ซึ่งเป็นการชำระภาษีทางอ้อมในที่สุด เป็นส่วนหนึ่งของราคาตลาดของสินค้าและบริการที่ได้ทำการซื้อขายภาษีที่จัดเก็บจากผู้ผลิต ผู้จำหน่าย และผู้นำเข้าสินค้า โดยผู้มีหน้าเสียภาษีสามารถผลักภาระภาษีไปยังผู้บริโภคได้ เช่น ภาษีมูลค่าเพิ่ม และภาษีธุรกิจเฉพาะ เป็นต้น
ภาษีธุรกิจเฉพาะ เป็นภาษีที่จะเรียกเก็บจากฐานบริโภคทั่วไปภายในประเทศ ที่กฎหมายกำหนดไว้เป็นพิเศษแยกต่างหากจากภาษีมูลค่าเพิ่ม เช่น ธุรกิจประกันชีวิต, กิจการโรงรับจำนำ
อากรแสตมป์ จะมีลักษณะการจัดพิมพ์คล้าย ๆ กับแสตมป์ไปรษณีย์ อากรแสตมป์เป็นภาษีตามประมวลรัษฎากรประเภทหนึ่ง จัดเก็บจากการกระทำ ตราสาร 28 ลักษณะ ตามที่กำหนดไว้ในบัญชีอัตราอากรแสตมป์
หลาย ๆ ประเทศมีแนวโน้มที่จะขึ้นภาษีทางอ้อม เพื่อสร้างรายได้ที่สูงขึ้น เพื่อนำไปเป็นงบประมาณในการพัฒนาประเทศ
และมอบสวัสดิการให้ประชาชน
'ภาษีทางตรงและภาษีทางอ้อม' ทำไมต้องจ่าย?
ภาษีจะกลับมาตอบแทนประชาชนใน 2 ลักษณะ คือ
1.ภาษีที่นำไปจ่ายเป็นเงินเดือนและค่าจ้างแก่ข้าราชการที่ให้บริการประชาชน และค่าใช้จ่ายของหน่วยราชการ เช่น ค่าไฟฟ้า ค่าน้ำประปา เป็นต้น
2.ภาษีที่นำไปเป็นค่าใช้จ่ายเพื่อการพัฒนาประเทศ เช่น การสร้างถนน พัฒนาโรงเรียนพัฒนาแหล่งน้ำ
ค่าเงินอุดหนุนกลุ่มต่างในชุมชน
หากพูดถึงภาษีในการดำเนินธุรกิจ ต้องมีความเข้าใจก่อนว่า แต่ละธุรกิจแต่ละประเภทเสียภาษีแตกต่างกัน เช่น ภาษีเงินได้นิติบุคคลจัดเก็บจากจากกำไรสุทธิของบริษัท หรือ ห้างหุ้นส่วน นิติบุคคล ที่สำคัญต้องจ่ายให้ครบถ้วนถูกต้องตามอัตราภาษีที่กฎหมายกำหนดด้วย เพื่อเป็นการป้องกันไม่ให้ถูกสรรพากรตรวจสอบย้อนหลังนั่นเอง และหลังจากทำความเข้าใจภาษีประเภทต่างๆ ที่เกี่ยวข้องแล้ว กิจการหรือองค์กรอาจจะเลือกให้สำนักงานบัญชีเป็นผู้ดูแลบัญชีรายเดือนและนำส่งภาษีแทนกิจการ หรือองค์กรพื่อให้มั่นใจว่าภาษีต่างๆของกิจการได้นำส่งสรรพากรอย่างถูกต้องครบถ้วนทันเวลา







