ทำธุรกิจอย่างไร? ไม่ให้โดนภาษีย้อนหลัง
สำหรับผู้ประกอบการที่เพิ่งเริ่มทำธุรกิจ หนึ่งในความกังวลที่มักเกิดขึ้นคือ “เรื่องภาษี” โดยเฉพาะการยื่นภาษีอย่างถูกต้องและครบถ้วน หลายคนอาจเคยได้ยินคำว่า “ภาษีย้อนหลัง” แล้วรู้สึกไม่สบายใจ เพราะกลัวว่าจะถูกเรียกเก็บภาษีในภายหลังโดยไม่รู้ตัว จริง ๆ แล้ว ภาษีย้อนหลังไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คิด หากเรามีความเข้าใจ และดำเนินการต่างๆ อย่างถูกต้อง ก็จะไม่ถูกเรียกเก็บภาษีย้อนหลังนั่นเอง
ภาษีย้อนหลัง คืออะไร?
ผู้ประกอบการบางท่านอาจยังสงสัยว่า “ภาษีย้อนหลัง” คืออะไร ทำไมกรมสรรพากรถึงรู้ว่าใครบ้างไม่ยื่นภาษีหรือไม่เสียภาษีอย่างถูกต้อง
อธิบายให้เข้าใจง่ายๆ ว่าภาษีย้อนหลังนั้น คือ การเรียกเก็บภาษี หลังจากกรมสรรพากรตรวจสอบแล้ว พบว่า เราเข้าข่ายเลี่ยงภาษี หรือจ่ายภาษีไม่ถูกต้อง จะตั้งใจหรือไม่ตั้งใจก็ตาม จึงมีการส่งหนังสือแจ้งการชำระภาษีย้อนหลังมาให้
ดังนั้น ภาษีย้อนหลัง คือ ภาษีที่กรมสรรพากรเรียกเก็บจากผู้เสียภาษีในกรณีที่ไม่ยื่นภาษี หรือยื่นไม่ครบถ้วนตามที่กฎหมายกำหนด อาจเกิดจากการยื่นภาษีผิดพลาด หรือไม่ยื่นภาษีเลยในปีที่ผ่านมาจนถึงปัจจุบัน ทำให้ต้องจ่ายภาษีย้อนหลังพร้อม ค่าปรับ และดอกเบี้ย
ทำไมต้องโดนภาษีย้อนหลัง?
การถูกเรียกเก็บภาษีย้อนหลังนั้น มี 2 สาเหตุหลักๆ นั่นคือ
- การหลีกเลี่ยงการจ่ายภาษี
- การจ่ายภาษีไม่ถูกต้องตามความเป็นจริง
สำหรับเจ้าของกิจการและนิติบุคคล การยื่นแสดงแบบภาษีและการชำระภาษีให้ถูกต้อง เป็นเรื่องสำคัญ การไม่รู้ว่าต้องยื่นภาษี เป็นสิ่งที่ไม่สามารถอ้างได้ เพราะหากถูกตรวจสอบย้อนหลัง นอกจากจะต้องชำระภาษีย้อนหลังแล้วนั้นยังต้องชำระค่าปรับและดอกเบี้ยอีกต่างหาก
ทำธุรกิจอย่างไรไม่ให้โดนภาษีย้อนหลัง
เริ่มต้นธุรกิจทั้งที อย่าปล่อยให้ความไม่รู้เรื่องภาษีเป็นกับดักที่ย้อนกลับมาทำร้ายเราในภายหลัง เชื่อว่าคงไม่มีใครอยากเผชิญกับการโดนกรมสรรพากรตรวจสอบและโดนภาษีย้อนหลัง เพราะนอกจากต้องชำระภาษีย้อนหลังแล้วยังต้องเสียค่าปรับอีกด้วย หากอยากดำเนินธุรกิจได้อย่างราบรื่นและไม่โดนภาษีย้อนหลัง ธุรกิจควรศึกษาข้อมูลดังต่อไปนี้
1.ทำความเข้าใจภาษีที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจ
นิติบุคคล ต้องศึกษาและทำความเข้าใจภาษีที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจ ซึ่งหลักๆ แล้วนิติบุคคลต้องชำระภาษีทั้ง 5 ประเภทต่อไปนี้ด้วยกัน
1.1. ภาษีเงินได้นิติบุคคลฯ คือ ภาษีที่เรียกเก็บจากนิติบุคคลโดยคำนวนจากกำไรสุทธิ
1.2. ภาษีหัก ณ ที่จ่าย เป็นภาษีที่ผู้ว่าจ้าง ทั้งในกรณีของบุคคลธรรมดาหรือนิติบุคคลจำเป็นต้องจ่ายให้ภาครัฐ โดยอัตราการหักภาษี ณ ที่จ่ายจะแตกต่างกันออกไปตามรูปแบบของค่าจ้าง
1.3. ภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) เมื่อธุรกิจมีรายได้ 1.8 ล้านบาทต่อปี ต้องทำการจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม ธุรกิจต้องยื่นรายงานภาษีมูลค่าเพิ่มทุกเดือน และต้องชำระเงินส่วนต่างเมื่อมีภาษีมูลค่าเพิ่มจากรายได้มากกว่าภาษีมูลค่าเพิ่มจากรายจ่าย
1.4. อากรแสตมป์ คือภาษีที่จะต้องจ่ายเมื่อมีการทำสัญญาใด ๆ เกิดขึ้น
1.5. ภาษีธุรกิจเฉพาะ เป็นภาษีเฉพาะสำหรับธุรกิจบางประเภท ซึ่งเจ้าของกิจการต้องศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมว่าธุรกิจของตนเองเข้าข่ายเป็นธุรกิจเฉพาะหรือไม่
(อ่านเพิ่มเติม: อยากทำธุรกิจ ภาษีที่เจ้าของธุรกิจควรรู้ มีอะไรบ้าง?)
2.ชำระภาษีให้ถูกต้อง
ความตั้งใจในการชำระภาษีให้ถูกต้อง เป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดเพื่อไม่ให้โดนภาษีย้อนหลัง การชำระภาษีไม่ครบหรือยื่นผิดพลาดเป็นสิ่งที่มีโอกาสเกิดขึ้นได้กับทุกคน ซึ่งหากเกิดเหตุการณ์นั้นก็สามารถทำการเจรจากับเจ้าหน้าที่กรมสรรพากรเพื่อแสดงเจนตนาในการชำระภาษีอย่างครบถ้วนถูกต้อง เพื่อหยุดการเพิ่มขึ้นของเงินที่ต้องจ่ายเพิ่ม 1.5% ต่อเดือน แต่หากมีเจตนาหลบเลี่ยงภาษี ไม่ว่าจะเป็นเพราะสาเหตุใดก็ตาม หรือ หากธุรกิจไม่ได้เสียภาษีครบถ้วน ธุรกิจนั้นก็ต้องเสียค่าปรับพร้อมโดนเรียกภาษีย้อนหลัง โดยจะใช้เหตุผลว่าไม่รู้ไม่ได้
3.ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญเสมอ
กฎหมายเกี่ยวกับภาษีมีการเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ เพื่อให้การเก็บภาษีเป็นธรรมและเหมาะสมกับการดำเนินธุรกิจในปัจจุบัน เจ้าของกิจการควรอัปเดตข่าวสารอยู่เสมอ และหากไม่แน่ใจในกฎหมาย หรือกฎเกณฑ์ที่กรมสรรพากรได้กำหนดแนวทางไว้ ก็ควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ เพื่อไม่ให้เกิดการเข้าใจผิด และยื่นแบบผิดพลาด ซึ่งเป็นสาเหตุของการถูกเรียกตรวจสอบและโดนภาษีย้อนหลังนั่นเอง

ขั้นตอนการตรวจสอบ ภาษีย้อนหลัง ของกรมสรรพากร
- ยึดตามเอกสาร หรือใบ 50 ทวิ ที่ทางบริษัทส่งให้กับทางกรมสรรพากร
- มีรายการโอนเงินเข้าบัญชีจำนวนมากกว่า 3,000 ครั้ง/ปี โดยไม่ดูจำนวนเงิน
- หรือมีเงินเข้าบัญชี 400 ครั้ง/ปี โดยมีจำนวนเงินฝั่งรับเข้ารวมกันมากกว่า 2 ล้านบาท
- การใช้บัตรเครดิต ที่แสดงข้อมูลด้านการทำธุรกรรมต่าง ๆ
- การใช้ระบบ Big Data & Data Analytics
- การตรวจสอบผ่านเมนูหรือการแจ้งเบาะแสผ่านทาง www.rd.go.th
- การดึงข้อมูลผ่านทางเว็บไซต์ต่าง ๆ รวมถึง Web Scraping
หมายเหตุ : ในกรณีที่ธนาคารหรือผู้ให้บริการทางการเงินอิเล็กทรอนิกส์ ส่งข้อมูลทางการเงินให้กับสรรพากร จะเรียกว่า “ธุรกรรมลักษณะเฉพาะ” นอกจากนี้ ยังมีการสุ่มตรวจตามกิจการต่าง ๆ ของทางกรมสรรพากรด้วย เช่น ร้านอาหาร ที่ทางกรมสรรพากรจะลงพื้นที่ด้วยตัวเอง แล้วนำข้อมูลมาใช้คำนวณรายได้ในแต่ละวันของกิจการ เป็นต้น
หากถูกเรียกเก็บ ภาษีย้อนหลัง ควรทำอย่างไร?
ภาษีเป็นหน้าที่ของทุกคนที่ต้องจ่ายและไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ เมื่อธุรกิจของคุณโดนกรมสรรพกรเข้าตรวจสอบ หากคุณไม่มีความผิด ก็สามารถนำหลักฐานต่าง ๆ เข้าไปพบกับเจ้าหน้าที่กรมสรรพากรเพื่อตรวจสอบความจริงต่อไป แต่ในกรณีที่คุณผิดจริง ก็ไม่สามารถทำอะไรได้นอกจากไปจ่ายภาษีและเสียค่าปรับพร้อมดอกเบี้ย
ช่องทางติดต่อกรมสรรพากร
เว็บไซต์: www.rd.go.th
โทร: 1161 ศูนย์บริการข้อมูลภาษีสรรพากร
Line Official: @rd.go.th
Facebook: กรมสรรพากร
สนใจจัดทำระบบ e-Tax Invoice สามารถติดต่อ ปรึกษา และสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม ได้ที่:
เบอร์โทร: 062-6265059
ไลน์: @etaxeasy
Facebook: EtaxEasy: โปรแกรมจัดทำใบกำกับภาษีและใบเสร็จรับเงินอิเล็กทรอนิกส์
Email: etaxeasy@topmte.com