ประเภทของอัตราภาษีเงินได้

ประเภทของอัตราภาษีเงินได้ ภาษีเงินได้ เป็นหนึ่งในภาษีที่คนทำงานส่วนใหญ่ต้องพบเจอ และเป็นเรื่องที่หลายคนอาจรู้สึกสับสนและอยากเข้าใจให้ลึกซึ้งยิ่งขึ้น โดยเฉพาะเรื่องอัตราภาษีและวิธีการคำนวณเงินได้บุคคลธรรมดา บทความนี้จะพาคุณไปทำความเข้าใจเกี่ยวกับอัตราภาษีเงินได้ในแต่ละประเภท พร้อมตารางเปรียบเทียบที่เข้าใจง่าย และแหล่งข้อมูลที่น่าเชื่อถือ เพื่อให้คุณสามารถวางแผนภาษีได้อย่างมีประสิทธิภาพ ภาษีเงินได้คืออะไร? ภาษีเงินได้ คือ ภาษีที่รัฐบาลเรียกเก็บจากบุคคลธรรมดาและนิติบุคคลที่มีรายได้ ซึ่งรายได้นี้สามารถเกิดจากการทำงาน การประกอบธุรกิจ การลงทุน หรือการได้รับทรัพย์สินอื่นๆ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อนำรายได้ที่ได้ไปใช้ในการพัฒนาประเทศ อัตราภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาในประเทศไทยจะมีการปรับเปลี่ยนอยู่เสมอ ข้อมูลล่าสุดและถูกต้องที่สุด สามารถตรวจสอบได้จาก เว็บไซต์กรมสรรพากร หรือ หน่วยงานภาษีที่เกี่ยวข้อง โดยทั่วไป อัตราภาษีจะแบ่งเป็นขั้นบันได ตามระดับของเงินได้ที่ได้รับ ซึ่งหมายความว่า ยิ่งมีรายได้สูง อัตราภาษีก็จะสูงขึ้นตามไปด้วยค่ะ ประเภทของอัตราภาษีเงินได้ อัตราภาษีเงินได้จะแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับประเภทของเงินได้ และจำนวนเงินได้ที่ได้รับ โดยทั่วไปจะแบ่งออกเป็น 2 ประเภทหลักคือ ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา: คือ ภาษีที่เรียกเก็บจากบุคคลทั่วไป เช่น พนักงานบริษัท ผู้ประกอบอาชีพอิสระ เจ้าของกิจการ หรือ นักลงทุน ภาษีเงินได้นิติบุคคล: คือ ภาษีที่เรียกเก็บจากนิติบุคคล เช่น บริษัทมหาชน จำกัด บริษัท หรือ ห้างหุ้นส่วน จำกัด…

e-Billing คืออะไร?

e-billing คืออะไร? “เข้าสู่ยุคดิจิทัลอะไรๆก็ดูทันสมัยไปซ่ะหมดแถบจะทุกอย่างก็ว่าได้ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องความสะดวกในการเดินทาง ความสะดวกในเรื่องของเครื่องมือการทำธุรกิจ และระบบอย่างอีกอื่นมากมายเป็นต้น” e-billing (ใบเเจ้งหนี้อิเล็กทรอนิกส์) e-billing ย่อมาจาก electronic billing หมายถึง ระบบการออกใบแจ้งหนี้แบบอิเล็กทรอนิกส์ คือการออกเอกสารในรูปแบบไฟล์อิเล็กทรอนิกส์แทนที่ใบแจ้งหนี้แบบกระดาษ โดยผู้ขายจะออกใบแจ้งหนี้แบบอิเล็กทรอนิกส์ส่งให้ผู้ซื้อผ่านช่องทางอีเมล หรือช่องทางออนไลน์อื่นๆ เเละแทนการส่งใบแจ้งหนี้แบบกระดาษทางไปรษณีย์หรือส่งมอบด้วยมือ เป็นต้น ผู้ประกอบการใช้เพื่อทดแทนใบแจ้งหนี้แบบกระดาษ ช่วยลดต้นทุนและเพิ่มความสะดวกในการทำธุรกรรมทางธุรกิจมากขึ้น ช่วยลดขั้นตอนการทำงานและเพิ่มความสะดวกในการจัดเก็บข้อมูลให้มีประสิทธิภาพมากขึ้นอีกด้วย และเป็นไปตามกฎหมายที่กำหนดไว้ ร่วมทั้งช่วยรักษาสิ่งแวดล้อมไปพร้อมกัน ประโยชน์ของ e-billing มีอะไรบ้าง? ผู้ขายสามารถออกใบแจ้งหนี้และส่งให้ลูกค้าทางออนไลน์ได้ง่ายดาย ลูกค้าก็สามารถดูและชำระเงินผ่านระบบออนไลน์ได้เช่นกัน สร้างความสะดวกให้กับทั้งเจ้าของกิจการและผู้ใช้บริการ และในการทำงานได้อย่างมากและยังช่วยควบคุมงบประมาณในการใช้จ่ายภายในองค์กรได้อีกด้วย ไม่ว่าจะเป็น อาทิ เช่น การใช้งานการออกเอกสารแบบอิเล็กทรอนิกส์ e-billing ช่วยให้กระบวนการออกใบแจ้งหนี้และชำระเงินรวดเร็วขึ้นประหยัดเวลาในการส่งและรับใบแจ้งหนี้ สะดวกทั้งผู้ประกอบการและผู้ใช้บริการได้เป็นอย่างดี การออกเอกสารอิเล็กทรอนิกส์ e-billing ยังช่วยลดต้นทุนค่าใช้จ่ายอุปกรณ์สำนักงานได้ค่อนข้างเยอะอีกด้วย ไม่ว่าจะเป็นในส่วนของค่าใช้จ่าย เช่น ค่ากระดาษ หมึกพิมพ์ และค่าจัดส่ง การออกเอกสารอิเล็กทรอนิกส์ e-billing ยัง ช่วยลดการใช้กระดาษ เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม เเละส่งเสริมภาพลักษณ์ที่ดีให้กับทางองค์กร การออกเอกสารอิเล็กทรอนิกส์ e-billing ยังมีระบบรักษาความปลอดภัยที่ช่วยป้องกันข้อมูลสูญหายหรือถูกปลอมแปลง…

8 ประเภทเงินได้ที่ต้องเสียภาษี มีอะไรบ้าง

8 ประเภทเงินได้ที่ต้องเสียภาษี มีอะไรบ้าง กรณีผู้มีเงินได้ในการประกอบอาชีพมีความแตกต่างกัน และมีความยากง่ายหรือต้นทุนที่ค่อนข้างแตกต่างกัน ในกฎหมายจึงได้แบ่งประเภทเงินได้ออกเป็นกลุ่มๆ เพื่อให้ผู้เสียภาษีได้รับข้อมูลที่ถูกต้องตามความต้องการของผู้เสียภาษี ซึ่งภาษีเงินได้เป็นภาษีที่จัดเก็บจากบุคคลธรรมดาหรือบุคคลผู้ที่มีรายได้ โดยการคำนวณภาษีก็จะแตกต่างกันไป เพื่อให้เข้าใจง่ายขึ้น ลองมาดูตารางสรุป 8 ประเภทของภาษีเงินได้กันเลยค่ะว่า แต่ละประเภทเนี้ยมีความแตกต่างกันอย่างไร เงินได้ที่เรารับอยู่ตอนนี้จัดอยู่ในประเภทเงินได้ ประเภทใดกันแน่นะ เงินได้ประเภทที่ 1 เป็นเงินได้ที่จัดอยู่ในหมวดของ พนักงานประจำหรือบุคคลที่รับเงินค่าจ้างจากผู้ว่าจ้าง ไม่ว่าจะเป็นเงินในส่วน เงินเดือน ค่าจ้าง เบี้ยเลี้ยง โบนัส หรือเงินให้สวัสดิการก็ตามที เงินได้ประเภทที่ 2 เป็นเงินได้จัดอยู่ในหมวดของ อาชีพอิสระหรือที่เค้าเรียกกันวันว่า ฟรีแลนซ์ ตามที่เราๆเคยได้ยินกันเลยค่ะ ไม่ว่าจะเป็นหน้าที่หรือตำแหน่งงานที่ทำ หรือจากการรับทำงานให้ เช่น ค่าธรรมเนียม ค่านายหน้า ค่าส่วนลด   เงิน ทรัพย์สิน หรือประโยชน์ใด ๆ ที่ได้จากหน้าที่หรือตำแหน่งงานที่ทำแต่จากการรับทำงานให้นั้น ไม่ว่าหน้าที่หรือตำแหน่งงาน หรืองานที่รับทำให้นั้นจะเป็นการประจำหรือชั่วคราว หรือไม่ก็ตาม ภาษีเงินได้ประเภทที่ 3 เป็นเงินได้จากค่าแห่งกู๊ดวิลล์ ค่าแห่งลิขสิทธิ์หรือสิทธิอื่นๆ หรือเป็นเงินได้ที่มีลักษณะ เป็นเงินรายปีอันได้มาจากพินัยกรรม นิติกรรมอย่างอื่น หรือคำพิพากษาของศาล เป็นต้น…

e-Withholding Tax กับการหัก ณ ที่จ่าย

e-withholding tax กับการหัก ณ ที่จ่าย ภาษีหัก ณ ที่จ่าย เปรียบเสมือนกลไกสำคัญในการจัดเก็บภาษีที่ภาครัฐได้กำหนดให้ผู้จ่ายเงินได้ต้องหักจ่ายล่วงหน้า โดยผู้จ่ายเงิน (บุคคลธรรมดาหรือนิติบุคคล) มีหน้าที่หักภาษีจากเงินที่จ่ายให้แก่ผู้รับเงิน (บุคคลธรรมดาหรือนิติบุคคล) ไม่ว่าจะเป็น พนักงาน ลูกจ้าง ฟรีแลนซ์ ในอัตราที่กำหนดไว้ และนำส่งเงินภาษีที่หักไว้ให้กับทางกรมสรรพากร เป็นต้น ทำไมต้องมีภาษีหัก ณ ที่จ่าย? เพื่อช่วยลดภาระผู้เสียภาษีช่วยให้ผู้เสียภาษีมีเงินเหลือไว้ใช้จ่ายก่อน และไม่ต้องจ่ายภาษีก้อนใหญ่ในคราวเดียวปลายปี เพิ่มประสิทธิภาพการจัดเก็บภาษีช่วยให้กรมสรรพากรลดการเลี่ยงภาษีและยากต่อการเลี่ยงภาษี เพราะมีกลไกการหักภาษีไว้ก่อน ในส่วนของระบบ e-Withholding Tax เป็นระบบอิเล็กทรอนิกส์ของกรมสรรพากรที่พัฒนาขึ้นเพื่อรองรับในเรื่องของการหักภาษี ณ ที่จ่าย ระบบนี้ช่วยให้ผู้เกี่ยวข้องทั้งฝั่งผู้จ่ายเงินและผู้รับเงินสามารถบริหารจัดการภาษีหัก ณ ที่จ่ายได้ง่าย และยังช่วยในเรื่องของการ ลดค่าใช้จ่ายในหลายๆด้าน ไม่ว่าจะเป็นต้นทุนขององค์กร ด้วยการเปลี่ยนจะการใช้กระดาษแทนที่ด้วยการใช้ระบบอิเล็กทรอนิกส์เข้ามาทำงานโดยมีธนาคารเป็นตัวกลางในการจัดการเกี่ยวเรื่องของการหัก ภาษี ณ ที่จ่าย ลดขั้นตอนในการทำงานไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการจัดเก็บเอกสาร ความถูกต้องของข้อมูลในเอกสาร ดีทั้งการค้นหาได้ง่ายรวดเร็วและยังได้รับข้อมูลที่ถูกต้อง ต่อไปในการยื่นแบบแสดงรายการภาษีหัก ณ ที่จ่าย ผู้ยื่นก็จะไม่ต้องมานั่งห่วงว่าเอกสารจะสูญหายมั้ยและไม่ต้องรื้อค้นเอกสารให้วุ่นวาย เพราะสามารถค้นหาได้ง่าย โดยค้นหาผ่านเว็ปไซต์ของทางกรมสรรพากร และยังมีสิทธิประโยชน์อีกมากมาย ระบบ e-Withholding…

การจัดเก็บภาษี (e-commerce)

การจัดเก็บภาษี (e-commerce) ในยุคดิจิทัลปัจจุบัน การทำธุรกิจเกี่ยวกับการซื้อขายสินค้าและบริการผ่านช่องทางออนไลน์ (e-commerce) มีมูลค่าการซื้อขายเพิ่มมากขึ้นทุกวัน ทำให้ธุรกิจมีการแข่งขันกันเพื่อสร้างมูลค่าให้กับธุรกิจ และ เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้า โดยการ เสนอขายและนำส่งสินค้าให้กับทางลูกค้าได้สะดวกมากยิ่งขึ้น ทำให้ธุรกิจเติบโตอย่างรวดเร็ว ส่งผลให้กรมสรรพากรต้องปรับระบบการจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) ให้สอดคล้องกับรูปแบบธุรกิจใหม่นี้ โดยหลักการทั่วไปเกี่ยวกับการจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มจากธุรกิจ e-commerce มีดังนี้ 1. ใครต้องเสียภาษีมูลค่าเพิ่ม ผู้ประกอบการ e-commerce ที่มีรายได้จากการขายสินค้าหรือบริการผ่านช่องทางออนไลน์ ไม่ว่าจะเป็นสินค้าที่จับต้องได้หรือสินค้าดิจิทัล ไม่ว่าจะขายผ่านเว็บไซต์ แพลตฟอร์มออนไลน์ หรือโซเชียลมีเดีย ผู้ให้บริการทางอิเล็กทรอนิกส์จากต่างประเทศ ที่มีรายได้จากการให้บริการแก่ผู้ใช้บริการในประเทศไทย เช่น บริการสตรีมมิ่งเพลง ภาพยนตร์ เกม อีบุ๊ค 2. ประเภทของภาษี ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา: คำนวณจากเงินได้สุทธิ (รายได้ – ค่าใช้จ่าย – ค่าลดหย่อน) กรณีเสียภาษีตามวิธีที่ 1: ภาษี = เงินได้สุทธิ x อัตราภาษี กรณีเสียภาษีตามวิธีที่ 2: ภาษี = เงินได้พึงประเมิน…

อาชีพฟรีแลนซ์ต้องเสียภาษีอะไรบ้าง

อาชีพฟรีแลนซ์ต้องเสียภาษีอะไรบ้าง อาจจะยังมีหลายคนสงสัยว่าบุคคลที่ทำอาชีพฟรีแลนซ์เค้าเสียกันหรือป่าว ถ้าเสียภาษีแล้วประเภทภาษีของอาชีพฟรีมีอะไรบ้าง ในฐานะฟรีแลนซ์ คุณมีหน้าที่ต้องเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา เช่นเดียวกับผู้มีรายได้ประจำทั่วไป โดยเงินได้ของคุณจะจัดอยู่ใน “เงินได้ประเภทที่ 2 ตามประมวลรัษฎากร หรือ “เงินได้มาตรา 40 (2)” ถ้าขึ้นชื่อว่าเป็นประชาชนคนไทยและมีรายได้ ทุกคนต้องมีหน้าที่เสียภาษีให้กับประเทศชาติ ไม่ว่าจะเป็นอาชีพอะไรก็ตาม ฟรีแลนซ์ หรือที่เค้าเรียกกันว่า อาชีพอิสระ เป็นกลุ่มคนทำงานที่มีความยืดหยุ่นสูง เลือกเวลาทำงาน เลือกสถานที่ทำงานเองได้ โดยไม่ต้องสังกัดองค์กรใดองค์กรหนึ่ง แต่การเป็นฟรีแลนซ์นั้น ก็มาพร้อมกับ ภาระหน้าที่ ในการเสียภาษีเช่นเดียวกับอาชีพอื่นๆ ค่ะ ภาษีหลัก ที่ฟรีแลนซ์ต้องเสียมีดังนี้ ประเภทภาษี กรณีที่ต้องเสีย อัตราภาษี ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา มีรายได้จากการประกอบอาชีพ ขึ้นอยู่กับเงินได้สุทธิ ภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) มีรายได้จากการขายสินค้าหรือบริการ เกิน 1.8 ล้านบาทต่อปี หรือ จดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม 7% ภาษีธุรกิจเฉพาะ ขึ้นอยู่กับประเภทธุรกิจ ขึ้นอยู่กับประเภทธุรกิจ อาชีพฟรีแลนซ์ต้องเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา เหมือนกับอาชีพทั่วไป โดยจะต้องเสียภาษี 2 รอบ ดังนี้…

ลดหย่อนภาษีเที่ยวเมืองรอง 2567 ใช้เอกสารระบบ etax

สนใจใช้ระบบ etax ปรึกษาฟรี (คลิกเลย) ลดหย่อนภาษีเที่ยวเมืองรอง 2567 ใช้เอกสารระบบ etax ทางภาครัฐต้องการสนับสนุนการท่องเที่ยวในเมืองไทย จึงได้มีการอนุมัติมาตรการลดหย่อนภาษีการท่องเที่ยวเมืองรอง 55 จังหวัด และ 15 จังหวัดหลัก 167 อำเภอเพื่อกระตุ้นให้สภาพการท่องเที่ยวและเศรษฐกิจดีขึ้น โดยโครงการเริ่มตั้งแต่ วันที่ 1 พฤษภาคม จนถึง วันที่ 30 พฤศจิกายน 2567 มาตรการลดหย่อนภาษีในการท่องเที่ยวเมืองรอง สำหรับบุคคลธรรมดา และ นิติบุคคล (ใช้เอกสารระบบ etax) มาตรการลดหย่อนภาษีในการท่องเที่ยวเมืองรอง สำหรับบุคคลธรรมดา ใช้ใบกำกับภาษีในรูปแบบ e-Tax invoice & e-Receipt สิทธิประโยชน์ทางภาษี สามารถนำค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับการบริการที่อยู่ในมาตรการที่กรมสรรพากรกำหนด สามารถมาหักลดหย่อนภาษีได้ถึง 1.5 เท่า ของค่าใช้จ่ายตามจริง ใบกำกับภาษีต้องออกในรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์เท่านั้น ผ่านระบบใบกำกับภาษีอิเล็กทรอนิกส์และใบเสร็จรับเงินอิเล็กทรอนิกส์ (etax invoice & e-receipt) หรือ etax invoice by…

ภาษีธุรกิจเฉพาะ

ภาษีธุรกิจเฉพาะ ถ้าต้องพูดถึงการเสียภาษีในบ้านเรื่องนั้นมีภาษีมากมาย ไม่ว่าจะเป็น ภาษีประเภทนิติบุคคล,  ภาษีบุคคลธรรมดา, ภาษีป้าย, ภาษที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง,  ภาษีสรรพาสามิต, ภาษีศุลกากร, ภาษีอากรแสตมป์, ภาษีมูลค่าเพิ่ม และภาษีธุรกิจเฉพาะภาษีธุรกิจเฉพาะ โดยเฉพาะ ภาษีธุรกิจเฉพาะ นับเป็นอีกหนึ่งภาษีที่มีหน้าที่เรียกเก็บภาษีจากเจ้าของกิจการที่ประกอบธุรกิจตามที่กฎหมายได้กำหนดเอาไว้ ภาษีประเภทนี้มีบทบาทที่สำคัญในการสร้างรายได้ให้กับภาครัฐ และยังช่วยส่งเสริมให้ธุรกิจนั้นๆประกอบธุรกิจอย่างถูกต้องตามหลักของกฎหมายอีกด้วย ผู้ประกอบการหน้าใหม่หลายๆธุรกิจที่ยังไม่รู้ว่า ภาษีธุรกิจเฉพาะคืออะไร แล้วทาง ผู้ประกอบการต้องเสียภาษีแบบไหน และ มีกิจการประเภทใดบ้าง ประเภทของธุรกิจที่ต้องเสียภาษีธุรกิจเฉพาะ สามารถแบ่งออกได้ ดังนี้ ประเภทที่ 1: ผู้ประกอบการ ไม่ว่าจะเป็น การขายสินค้าทั่วไป การบริการ การขนส่ง หรือผู้ประกอบการรับเหมาก่อสร้าง ประเภทที่ 2: ผู้ประกอบการm ธุรกิจธนาคาร ธุรกิจประกันภัย ธุรกิจเงินทุน ธุรกิจหลักทรัพย์ ประเภทที่ 3: ธุรกิจที่ต้องเสียภาษีในอัตรา 5% ของยอดขาย เช่น ธุรกิจห้างสรรพสินค้า ธุรกิจโรงแรม ธุรกิจสวนสนุก ธุรกิจขายสุรา อัตราภาษีธุรกิจเฉพาะ อัตราภาษีธุรกิจเฉพาะสำหรับแต่ละประเภทธุรกิจจะแตกต่างกันไป ดังนี้ กิจการธนาคาร:…

สิทธิประโยชน์ทางภาษีสำหรับธุรกิจ SMEs

4 สิทธิประโยชน์ทางภาษีสำหรับธุรกิจ SMEs ถ้าให้พูดถึงการทำธุรกิจในประเทศไทย นอกจากต้องเผชิญกับความท้าทายด้านการตลาด การแข่งขัน และการจัดการแล้วยังมีภาระหน้าที่สำคัญอีกประการหนึ่ง นั่นคือ การเสียภาษี ภาษีเปรียบเสมือนหลอดเลือดใหญ่ที่หล่อเลี้ยงประเทศ ช่วยให้รัฐบาลมีรายได้เพื่อนำไปพัฒนาประเทศ แต่สำหรับผู้ประกอบการ ภาษีอาจเป็นภาระค่าใช้จ่ายที่ไม่น้อยเลยทีเดียวอย่างไรก็ตาม ทางภาครัฐยังได้มองเห็นถึงความสำคัญของภาคธุรกิจ จึงได้ออก มาตรการภาษี มากมายเป็นสิทธิประโยชน์ทางภาษีเพื่อนำไปส่งเสริมสนับสนุนให้ธุรกิจเติบโต แข็งแกร่ง และสามารถแข่งขันในเวทีโลกได้ รัฐบาลไม่ได้มีเพียงสิทธิประโยชน์ให้เพียงอย่างเดียว แต่ทางกรมสรรพากรก็ได้มีการพัฒนาระบบ Etax ขึ้นมาเพื่อให้ผู้ประกอบการที่ใช้บริการระบบEtax ได้มีตัวช่วยในการจัดการเอกสารง่ายขึ้นเพื่อใช้นำไปใช้ในการยื่นภาษีได้อย่างสะดวกสะบายอีกด้วย “รัฐบาลไทยได้ให้ความสำคัญกับการส่งเสริมและสนับสนุนการเติบโตของธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม ประเภทธุรกิจ (SMEs) มาโดยตลอด หนึ่งในมาตรการสำคัญที่รัฐบาลใช้เพื่อสนับสนุน ธุรกิจ SMEs คือการให้สิทธิประโยชน์ทางภาษี ซึ่งเป็นการลดภาระทางการเงินให้กับผู้ประกอบการ SMEs ทำให้มีเงินทุนหมุนเวียนไปใช้ในการขยายธุรกิจได้มากขึ้น” ธุรกิจ (SMEs) มีขนาดกลางและขนาดย่อม มีบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศไทย รัฐบาลจึงได้ให้สิทธิประโยชน์ทางภาษีต่างๆ เพื่อสนับสนุนและส่งเสริมให้ธุรกิจ SMEs เติบโตและไปได้ไกลมากยิ่งขึ้นอีกด้วย ประเภทของสิทธิประโยชน์ทางภาษี สิทธิประโยชน์ทางภาษีสำหรับธุรกิจ แบ่งออกได้เป็นประเภทหลักๆ ดังนี้ 1.การยกเว้นภาษี และ ลดหย่อนภาษี ยกเว้นการเสียภาษีเงินได้นิติบุคคล บางส่วนหรือทั้งหมด เป็นระยะเวลาหนึ่ง และ ลดหย่อนเงินได้ก่อนคำนวณภาษี…

จดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม(vat) vsไม่จดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม

จดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม(vat) vsไม่จดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม “การจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มVat มีข้อดีมากมาย และยังสร้างโอกาสให้กับธุรกิจของคุณอีกด้วย!!” แต่!!! ก็ยังมีหลายคนที่ยังไม่เข้าใจ ว่าการจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มสำคัญและดีอย่างไรกับธุรกิจของคุณ สิทธิประโยชน์ที่จะได้รับนั้นแตกต่างจากธุรกิจที่ไม่จดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มอย่างไร วันนี้เราจะมาสรุปข้อมูลสั้นๆ เพื่อให้คนที่ยังไม่เข้าใจเรื่องนี้ให้เข้าใจว่าระหว่างการจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มและการที่ไม่จดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มนั้นมีความสำคัญอย่างไรและสิทธิประโยชน์ที่ได้รับแตกต่างจากผู้ที่ไม่จดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มอย่างไร 1.เกณฑ์การจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม ผู้ประกอบการที่มีรายได้จากการขายสินค้าหรือบริการในทางธุรกิจ ทุกๆกิจการ ไม่ว่าจะอยู่ในรูปแบบใดก็ตาม หากมีรายได้ที่เกินเกณฑ์ที่ทางกรมสรรพากรกำหนดไว้ ต้องมีหน้าที่ในการยื่นขอขึ้นทะเบียนการจดภาษีมูลค่าเพิ่ม แต่ถ้าหากไม่ได้อยู่เกณฑ์ที่ทางกรมสรรพากรกำหนด ก็สามารถขอยื่นจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มได้ หากผู้ประกอบการรายใด ไม่ได้จดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม แต่กิจการนั้นๆ มีรายได้เกินกำหนดของกรมสรรพากร คือ 1.8 ล้านบาทต่อปี จะต้องรีบทำการยื่นจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มภายในเวลาที่กรมสรรพากรกำหนดเท่านั้น คือ 30 วัน นับจากวันที่มูลค่าฐานภาษีที่กรมสรรพากรกำหนด หากไม่ยื่นจดทะเบียนมีความมีความเสี่ยงถูกปรับกรณีที่ประกอบธุรกิจโดยไม่จดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม จะมีโทษปรับทางกฎหมายตามที่กรมสรรพากรได้กำหนดไว้ ผู้ประกอบการที่ขายสินค้าหรือบริการที่ได้รับยกเว้นภาษีมูลค่าเพิ่มตามกฎหมาย ไม่จำเป็นต้องจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม ผู้ประกอบการที่ให้บริการจากต่างประเทศและได้รับการใช้บริการนั้นในประเทศไทย ต้องจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม 2.สิทธิประโยชน์ของการจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม สามารถขอคืนภาษีซื้อได้ หมายความว่า เมื่อซื้อสินค้าหรือบริการจากผู้ประกอบการที่จดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม สามารถขอคืนภาษีมูลค่าเพิ่มที่จ่ายไปได้ ช่วยลดต้นทุนของธุรกิจ สามารถออกใบกำกับภาษีเต็มรูปแบบ  ช่วยเพิ่มความน่าเชื่อถือให้กับธุรกิจ สามารถหักภาษีซื้อจากยอดภาษีขายได้ กรณีที่มียอดขายสินค้าหรือบริการที่ต้องเสียภาษีมูลค่าเพิ่ม สามารถหักภาษีซื้อที่จ่ายไปจากยอดภาษีขายได้ ช่วยลดจำนวนภาษีที่ต้องชำระ สามารถสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับธุรกิจ แสดงให้เห็นว่าธุรกิจมีขนาดใหญ่ มั่นคง และปฏิบัติตามกฎหมาย มีสิทธิ์ในการออกใบกำกับภาษีอิเล็กทรอนิกส์และใบเสร็จรับเงินอิเล็กทรอนิกส์ ผ่านระบบ…