บัญชียุคใหม่ต้องรู้จัก ระบบ e-Tax Invoice & e-Receipt เพราะเป็นระบบที่กรมสรรพากรพัฒนาขึ้นมาเพื่อจัดทำและนำส่งข้อมูลใบกำกับภาษีอิเล็กทรอนิกส์และใบรับอิเล็กทรอนิกส์ หรือที่เรียกว่า e-Tax Invoice & e-Receipt โดยผู้ประกอบการต้องจัดทำใบกำกับภาษี ใบเพิ่มหนี้ ใบลดหนี้ และใบรับ (ใบเสร็จรับเงิน) ให้อยู่ในรูปของข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์มีการลงลายมือชื่อดิจิทัล (Digital Signature) ที่มีความน่าเชื่อถือปลอดภัยตามมาตรฐานสากล
สารบัญ
- ใบกำกับภาษีอิเล็กทรอนิกส์ (e-Tax Invoice)
- ใบรับอิเล็กทรอนิกส์ (e-Receipt)
- หน้าที่ของผู้ออกใบกำกับภาษี / ใบรับอิเล็กทรอนิกส์
- ระบบ e-Tax Invoice & e-Receipt
- ผู้มีสิทธิจัดทำและนำส่งใบกำกับภาษีอิเล็กทรอนิกส์และใบรับอิเล็กทรอนิกส์
- ใบรับรองอิเล็กทรอนิกส์ (Electronic Certificate)
- ลายมือชื่อดิจิทัล (Digital Signature)
- ประโยชน์ของการรับรองข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ด้วยการลงลายมือชื่อดิจิทัล (Digital Signature)
- ช่องทางนำส่งข้อมูลให้กรมสรรพากร
- ประเภทเอกสารที่ต้องจัดทำเป็นรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์
วัตถุประสงค์และประโยชน์การจัดทำใบกำกับภาษีอิเล็กทรอนิกส์และใบรับอิเล็กทรอนิกส์ (ระบบ e-Tax Invoice & e-Receipt)
วัตถุประสงค์
1. ส่งเสริมและสนับสนุนนโยบาย Thailand 4.0 และ National e-Payment
2. รองรับการทำธุรกรรมอิเล็กทรอนิกส์อย่างครบวงจร
3. ลดต้นทุนค่าใช้จ่ายและการบริหารจัดการของภาครัฐและภาคเอกชน
4. ลดการใช้เอกสารในรูปแบบกระดาษ ช่วยลดภาวะโลกร้อน
5. เพิ่มความมั่นใจ ปลอดภัยตามาตรฐานสากล
ประโยชน์
1. ลดความซ้ำซ้อนและลดปัญหาการจัดการเอกสารที่อยู่ในรูปของกระดาษ
2. ประหยัดเวลาและค่าใช้จ่ายในการจัดส่งเอกสาร
3. สามารถนำข้อมูลไปใช้ประมวลผลต่อในระบบสารสนเทศภายในองค์กรได้ทันที
4. เตรียมความพร้อมเพื่อรองรับธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์
5. มีความน่าเชื่อถือและมีผลผูกพันทางกฑหมายของข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์
ประเด็นที่นักบัญชีรุ่นใหม่ต้องรู้เกี่ยวกับ “ระบบ e-Tax Invoice & e-Receipt”
ใบกำกับภาษีอิเล็กทรอนิกส์ (e-Tax Invoice)
- ใบกำกับภาษีตามมาตรา 86/4 แห่งประมวลรัษฎากร รวมถึงใบเพิ่มหนี้ตามมาตรา 86/9 และใบลดหนี้ตามมาตรา 86/10 แห่งประมวลรัษฎากร ซึ่งได้มีการจัดทำข้อความขึ้นเป็นข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ และลงลายมือชื่อดิจิทัล (Digital Signature) หรือได้มีการประทับรับรองเวลา (Time Stamp) ด้วยระบบ e-Tax Invoice by Email
ใบรับอิเล็กทรอนิกส์ (e-Receipt)
- ใบรับหรือใบเสร็จรับเงิน ตามมาตรา 105 ทวิ แห่งประมวลรัษฎากร ที่ได้มีการจัดทำข้อความขึ้นเป็นข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งได้ลงลายมือชื่อดิจิทัล (Digital Signature) ด้วยวิธีการที่กรมสรรพากรกำหนด
หน้าที่ของผู้ออกใบกำกับภาษี / ใบรับอิเล็กทรอนิกส์
1. จัดทำใบกำกับภาษีอิเล็กทรอนิกส์และใบรับอิเล็กทรอนิกส์ตามที่กรมสรรพากรกำหนด
2. ส่งมอบใบกำกับภาษีอิเล็กทรอนิกส์และใบรับอิเล็กทรอนิกส์ให้ผู้ซื้อสินค้าและผู้รับบริการ
3. นำส่งข้อมูลใบกำกับภาษีอิเล็กทรอนิกส์และใบรับอิเล็กทรอนิกส์ให้กรมสรรพากรตามระยะเวลาที่กำหนด
4. เก็บรักษาข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ตามที่กฎหมายกำหนด
ระบบ e-Tax Invoice & e-Receipt
- เป็นระบบบริการที่กรมสรรพากรพัฒนาขึ้นโดยมีวัตถุประสงค์ ให้ผู้ประกอบการจัดทำใบกำกับภาษี ใบเพิ่มหนี้ ใบลดหนี้ และใบเสร็จรับเงินในรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์ ที่มีการลงลายมือชื่อดิจิทัล (Digital Signature) ส่งมอบให้ผู้ซื้อสินค้าหรือผู้รับบริการด้วยวิธีการแลกเปลี่ยนข้อมูลทางอิเล็กทรอนิกส์ตามวิธีที่ตกลงกัน นอกจากนี้ผู้ประกอบการมีหน้าที่ต้องนำส่งข้อมูลให้กรมสรรพากรผ่านช่องทางที่กรมสรรพากรกำหนดด้วย
ผู้มีสิทธิจัดทำและนำส่งใบกำกับภาษีอิเล็กทรอนิกส์และใบรับอิเล็กทรอนิกส์ (e-Tax Invoice & e-Receipt)
1. ผู้ประกอบการจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม หรือมีหน้าที่ออกใบรับ
2. มีใบรับรองอิเล็กทรอนิกส์ (Electronic Certificate) ที่อยู่ภายใต้การรับรองของผู้ให้บริการออกใบรับรองอิเล็กทรอนิกส์แห่ง (NRCA) และสำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ (ETDA)
3. มีระบบการควบคุมภายในที่ดี และสามารถพิสูจน์ได้ว่าใบกำกับภาษีอิเล็กทรอนิกส์และใบรับอิเล็กทรอนิกส์ ที่จัดทำและนำส่งให้แก่ผู้รับมีความถูกต้องครบถ้วนโดยใช้วิธีการที่เชื่อถือได้
4. ต้องไม่เป็นผู้ประกอบการที่ได้รับอนุมัติจัดทำใบกำกับภาษีอิเล็กทรอนิกส์ด้วยระบบ e-Tax Invoice by Email
บทความที่เกี่ยวข้อง
ใบรับรองอิเล็กทรอนิกส์ (Electronic Certificate)
- ข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์หรือการบันทึกอื่นใด ซึ่งยืนยันความเชื่อมโยงระหว่างเจ้าของลายมือชื่อดิจิทัล (Digital Signature) กับข้อมูลสำหรับใช้สร้างลายมือชื่อดิจิทัล (Digital Signature) ที่ออกโดยผู้ให้บริการออกใบรับรองอิเล็กทรอนิกส์ (Certification Authority) ที่อยู่ภายใต้การรับรองของผู้ให้บริการออกใบรับรองอิเล็กทรอนิกส์แห่งชาติ (Thailand Natuonal Root CA: NRCA)
ลายมือชื่อดิจิทัล (Digital Signature)
- ข้อความหรือสัญลักษณ์ี่สร้างขึ้นทางอิเล็กทรอนิกส์ โดยการคำนวณทางคณิตศาสตร์เข้ารหัสอัลกอริทึมแบบอสมมาตร (Asmmetric Key Algorithms) บนพื้นฐานวิทยาการเข้ารหัส (Encryption) และใช้กับระบบคู่กุญแจ (key Pair) โดยนำไปคำนวณร่วมกับกุญแจส่วนตัว (Private key) ของผู้ลงลายมือชื่อในข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ ในลักษณะที่สามารถจะใช้กุญแจสาธารณะ (Public Key) ของผู้ลงลายมือชื่อตรวจสอบได้ว่า ลายมือชื่อดิจิทัลนั้นได้สร้างขึ้นโดยกุญแจส่วนตัว (Private Key) ของผู้ลงลายมือชื่อนั้นหรือไม่และข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ที่มีการลงลายมือชื่อดังกล่าวได้มีการเปลี่ยนแปลงภายหลังการลงลายมือชื่อหรือไม่
ประโยชน์ของการรับรองข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ด้วยการลงลายมือชื่อดิจิทัล (Digital Signature)
1. สามารถตรวจสอบการถูกแก้ไขเปลี่ยนแปลงด้วยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์
2. สามารถเชื่อมโยงเอกสารเพื่อยืนยันตัวตนผู้ออกเอกสาร
3. มีผลทางกฎหมายตามพระราชบัญญัติว่าด้วยธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ พ.ศ.2544
ผู้ประกอบการจัดทำใบกำกับภาษีอิเล็กทรอนิกส์และใบรับอิเล็กทรอนิกส์ สามารถนำส่งข้อมูลให้กรมสรรพากรได้ 3 ช่องทาง
1.Upload นำส่งข้อมูลด้วยวิธีการอัปโหลดผ่านเว็บไซต์กรมสรรพากร
2.Service Provider เป็นวิธีการนำส่งข้อมูลโดยผ่านผู้ให้บริการที่มีคุณสมบัติตามที่กำหนด
3.Host to Host นำส่งข้อมูลผ่านระบบนำส่งที่ผู้ประกอบการเชื่อมต่อกับกรมสรรพากรโดยตรง
ประเภทเอกสารที่ต้องจัดทำเป็นรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์ มี 4 ประเภท ได้แก่
- ข้อมูลใบกำกับภาษี ตามมาตรา 86/4 แห่งประมวลรัษฎากร
- ข้อมูลใบเพิ่มหนี้ ตามมาตรา 86/9 แห่งประมวลรัษฎากร
- ข้อมูลใบลดหนี้ ตามมาตรา 86/10 แห่งประมวลรัษฎากร
- ข้อมูลใบรับ ตามมาตรา 105 ทวิ แห่งประมวลรัษฎาก
สรุป: ระบบ e-Tax เป็นระบบที่นักบัญชียุคใหม่ต้องเรียนรู้กับระบบ เพราะระบบ e-Tax เข้ามามีบทบาทสำหรับธุรกิจมากยิ่งขึ้น และหลายๆ บริษัทก็เปลี่ยนมาใช้ระบบ e-Tax เพราะช่วยลดต้นทุนธุรกิจและเพิ่มประสิทธิภาพการออกเอกสารสำคัญทางภาษีสำหรับผู้ประกอบการที่อยู่ในระบบภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) อีกทั้ง นโยบายของภาครัฐก็สนับสนุนให้ผู้ประกอบการใช้ระบบอิเล็กทรอนิกส์ในการออกใบกำกับภาษี เพื่อลดภาระงานเอกสาร และเพิ่มความโปร่งใสในการยื่นแบบและจ่ายภาษี
ที่มา: etax.rd.go.th







