
ความต่างระหว่างภาษีบุคคลธรรมดา และภาษีนิติบุคคล
การบริหารธุรกิจไม่ใช่เรื่องง่าย นอกจากการวางแผนเรื่องต้นทุน-กำไรแล้วต้องวางแผนภาษีเป็นอีกด้วย นักธุรกิจมือใหม่หลายท่านอาจมีความสงสัยในช่วงเริ่มธุรกิจ หรือเมื่อธุรกิจมีแนวโน้มกำลังเติบโต ว่าบริษัทของตัวเองนั้นควรดำเนินแบบใด ไม่ว่าจะเป็น แบบบุคคลธรรมดา หรือ นิติบุคคล ทั้ง 2 รูปแบบมีความแตกต่างกันในเรื่องของฐานการจ่ายภาษี การเรียนรู้ ‘ความต่างระหว่างภาษีบุคคลธรรมดา และภาษีนิติบุคคล‘ จะช่วยให้ผู้ประกอบการเข้าใจมากยิ่งขึ้นค่ะ
ภาษีบุคคลธรรมดา หมายถึง ภาษีที่จัดเก็บจากบุคคลทั่วไป ซึ่งรวมถึงเงินได้จากการประกอบอาชีพ เงินได้จากการจ้างทำ เงินได้จากการรับเหมา เงินได้จากธุรกิจและวิชาชีพ เงินได้จากการประมง เงินได้จากเกษตรกรรม เงินได้จากค่าเช่า เงินได้จากเงินปันผล เงินได้จากดอกเบี้ย และเงินได้อื่นๆ
ภาษีนิติบุคคล หมายถึง ภาษีที่จัดเก็บจากนิติบุคคล ซึ่งรวมถึงบริษัท ห้างหุ้นส่วนจำกัด บริษัทจำกัดมหาชน สมาคม มูลนิธิ และนิติบุคคลอื่นๆ
ตารางเปรียบเทียบ: ความต่างระหว่างภาษีบุคคลธรรมดา และภาษีนิติบุคคล
หัวข้อ
1.ผู้เสียภาษี
2.ประเภทของรายได้
3.การเสียภาษี
4.อัตราภาษี
5.ค่าลดหย่อน
6.การยื่นแบบแสดงรายการภาษี
ภาษีบุคคลธรรมดา
บุคคลทั่วไป
เงินได้จากหลายแหล่ง
เสียภาษีตามประเภทของรายได้
แบบก้าวหน้า สูงสุด 35%
มีค่าลดหย่อนหลายประเภท
ยื่นแบบแสดงรายการภาษีปีละ 1 ครั้ง
ภาษีนิติบุคคล
นิติบุคคล
เงินได้จากการประกอบธุรกิจ
เสียภาษีจากกำไรสุทธิ
20%
มีค่าลดหย่อนน้อย
ยื่นแบบแสดงรายการภาษีปีละ 1 ครั้ง
ช่องทางการยื่นภาษีบุคคลธรรมดา และภาษีนิติบุคคล
ในยุคปัจจุบัน กรมสรรพากรมีช่องทางการยื่นภาษีที่หลากหลาย สะดวก รวดเร็ว และปลอดภัย เพื่อรองรับผู้เสียภาษีทั้งบุคคลธรรมดาและนิติบุคคล ดังนี้
- ยื่นแบบแสดงรายการภาษีผ่านระบบ E-Filing
- สร้างความสะดวก รวดเร็ว และปลอดภัย
- ยื่นแบบและชำระภาษีได้ทุกที่ ทุกเวลา
- ตรวจสอบสถานะการยื่นแบบและการชำระภาษีได้ออนไลน์
- รองรับทั้งภาษีบุคคลธรรมดาและภาษีนิติบุคคล
- ยื่นแบบแสดงรายการภาษีผ่านแอป RD Smart Tax
- สร้างความสะดวก รวดเร็ว และปลอดภัย
- รองรับทั้งระบบ iOS และ Android
- เหมาะสำหรับผู้เสียภาษีบุคคลธรรมดาที่มีรายได้ไม่เกิน 1,800,000 บาทต่อปี
- ยื่นแบบแสดงรายการภาษีผ่านตู้รับชำระเงิน (Drop Box)
- สร้างความสะดวก รวดเร็ว และปลอดภัย ไม่ต้องรอคิวนาน
- สามารถยื่นแบบแสดงรายการภาษีได้ทุกวัน ตลอด 24 ชั่วโมง
- เหมาะสำหรับผู้เสียภาษีที่ต้องการยื่นแบบแสดงรายการภาษีแบบกระดาษ
- ยื่นแบบแสดงรายการภาษี ณ สำนักงานสรรพากรพื้นที่
- เจ้าหน้าที่ให้คำแนะนำและช่วยเหลือ
- เหมาะสำหรับผู้เสียภาษีที่มีกรณีพิเศษ
- ยื่นแบบแสดงรายการภาษีผ่านเคาน์เตอร์เซอร์วิส
- สะดวก รวดเร็ว
- มีจุดให้บริการทั่วประเทศ
- เหมาะสำหรับผู้เสียภาษีที่ต้องการยื่นแบบแสดงรายการภาษีแบบกระดาษ
หรือจะเลือกใช้บริการผ่านช่องทาง e-tax ผู้ให้บริการ ระบบการแปลงไฟล์เอกสารอิเล็กทรอนิกส์ เช่น ใบกำกับภาษีอิเล็กทรอนิกส์ (etax invoice) / ใบรับอิเล็กทรอนิกส์ eRecipt เพื่อง่ายต่อการยื่นภาษีของผู้ใช้บริการ แถมยังได้ข้อมูลที่ถูกต้องตามมาตรฐานของกรมสรรพากรอีกด้วย และยังมีความน่าเชื่อถือด้านความปลอดภัยด้วย ซึงตอนนี้กำลังป็นที่นิยมกันอย่างมาก เนื่องจาก ระบบ Etax จะทำให้การยื่นภาษีง่านขึ้น แต่ยังทำให้ผู้ประกอบการประหยัดค่าใช้จ่ายในองค์กรเพิ่มมากขึ้นในหลายๆเรื่อง ไม่ว่าจะเป็น ค่าจัดส่ง ค่ากระดาษ ค่าเช่าพื้นที่จัดเก็บเอกสาร เป็นต้น
ตารางสรุปช่องทางการยื่นภาษี

หมายเหตุ
- ผู้เสียภาษีควรเลือกช่องทางการยื่นภาษีที่เหมาะสมกับตนเอง
- ตรวจสอบวัน เวลา สถานที่ และเอกสารที่ต้องใช้ในการยื่นภาษี
- ยื่นแบบแสดงรายการภาษีภายในกำหนดเวลา เพื่อหลีกเลี่ยงเบี้ยปรับ
ภาษีบุคคลธรรมดา และภาษีนิติบุคคล มีความแตกต่างกันทั้งผู้เสียภาษี ประเภทของรายได้ การเสียภาษี อัตราภาษี ค่าลดหย่อน และการยื่นแบบแสดงรายการภาษี ธุรกิจควรเลือกประเภทของภาษีให้เหมาะสมกับรูปแบบธุรกิจ
ศึกษาบทความเกี่ยวกับ: ภาษีและการเงิน by EtaxEasy