เลขประจำตัวผู้เสียภาษี คืออะไร? วิธีขอและตรวจสอบง่ายๆ
การมีเลขประจำตัวผู้เสียภาษี ถือเป็นก้าวแรกของการเข้าสู่ระบบภาษีอย่างถูกต้องตามกฎหมาย หลายคนอาจเคยได้ยินคำว่า เลขประจำตัวผู้เสียภาษี แต่ยังไม่แน่ใจว่ามันคืออะไร ตรวจสอบอย่างไร สำคัญแค่ไหน หรือจำเป็นต้องมีหรือไม่ โดยเฉพาะในยุคที่การทำธุรกรรมทางการเงินและภาษี กลายเป็นเรื่องใกล้ตัวมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นบุคคลธรรมดาหรือนิติบุคคล ต่างมีหน้าที่ต้องจ่ายภาษีตามที่กฎหมายกำหนดไว้ ซึ่งก่อนการยื่นภาษีหรือทำธุรกรรมต่างๆ ควรตรวจสอบเลขประจำตัวผู้เสียภาษีให้พร้อมเพื่อความถูกต้อง ในการจัดการภาษี บทความนี้จะพาคุณไปรู้จักกับเลขประจำตัวผู้เสียภาษีให้ชัดเจนมากขึ้น พร้อมแนะนำวิธีขอและตรวจสอบเลขประจำตัวภาษีทั้งสำหรับ บุคคลธรรมดา และ นิติบุคคล เพื่อให้คุณจัดการเรื่องภาษีอย่างถูกต้อง
เลขประจำตัวผู้เสียภาษี คืออะไร?
เลขประจำตัวผู้เสียภาษี (Tax Identification Number หรือ TIN) คือหมายเลขที่กรมสรรพากรกำหนดให้แก่ผู้มีหน้าที่เสียภาษี เพื่อใช้ระบุตัวตนในการทำธุรกรรมทางภาษี เช่น การยื่นแบบแสดงรายการเสียภาษี การหักภาษี ณ ที่จ่าย การออกใบกำกับภาษี และการติดต่อราชการที่เกี่ยวกับภาษีอื่น ๆ
ตรวจสอบ เลขประจำตัวผู้เสียภาษี ได้อย่างไร?
การตรวจสอบเลขประจำตัวผู้เสียภาษีของบุคคลธรรมดาและนิติบุคคล โดยเบื้องต้นจะเป็นเลข 13 หลักเช่นเดียวกัน แต่จะมีประเด็นที่แตกต่างกัน ดังนี้
บุคคลธรรมดา
กรณีบุคคลธรรมดา ให้ใช้เลขประจำตัวประชาชนตามกฎหมายว่าด้วยทะเบียนราษฎร ใช้เลขประจำตัวประชาชน 13 หลัก ในการยื่นรายการภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา โดยไม่ต้องยื่นคำร้องขอมีเลขประจำตัวผู้เสียภาษีใหม่ และบุคคลธรรมดาที่มีหน้าที่ในการหักภาษี ณ ที่จ่าย ก็สามารถแจ้งเลขประจำตัวประชาชนแก่สรรพากรได้เลย โดยไม่ต้องขอออกเลขประจำตัวผู้เสียภาษีใหม่
นิติบุคคล
กรณีนิติบุคคล จะได้รับเลขประจำตัวผู้เสียภาษี 13 หลัก เมื่อจดทะเบียนกับกรมพัฒนาธุรกิจการค้า โดยตัวเลขชุดนี้จะติดตัวนิติบุคคลไปตลอดอายุกิจการ ซึ่งใช้ในการยื่นแบบแสดงรายการการชำระภาษี การหักภาษีเงินได้ ณ ที่จ่ายการติดต่อราชการกับกรมสรรพากร รวมทั้งการจัดทำเอกสารต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ การจัดทำใบกำกับภาษี การจัดทำใบเสร็จรับเงิน เป็นต้น
*หมายเหตุ ตั้งแต่ 1 กุมภาพันธ์ 2555 เป็นต้นไป กรรมสรรพากรกำหนดให้ผู้สียภาษีทุกประเภท ใช้เลขประจำตัวผู้เสียภาษีอากร 13 หลัก แทนเลขประจำตัวผู้เสียภาษี 10 หลักที่ใช้อยู่เดิม

เลขประจำตัวผู้เสียภาษี ใครบ้างต้องขอ?
การมี เลขประจำตัวผู้เสียภาษี ถือเป็นหน้าที่ของผู้ที่มีรายได้ตามเกณฑ์ของกฎหมายภาษีอากร หากเป็นบุคคลธรรมดา โดยมีเลขประจำตัวประชาชน 13 หลัก ซึ่งออกให้กรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย ไม่จำเป็นต้องไปขอออกเลขประจำตัวผู้เสียภาษีใหม่ แต่หากคุณอยู่ในกลุ่มเหล่านี้ก็จำเป็นจ้องขอมีเลขประจำตัวภาษี โดยกลุ่มผู้ที่ต้องขอมี ดังนี้
บุคคลธรรมดา
กลุ่มผู้มีหน้าที่เสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาที่ต้องขอมีเลขประจำตัวผู้เสียภาษีอากร ที่เป็นไปตามกรณี ดังนี้
(1) กรณีไม่มีเลขประจำตัวประชาชน ตามกฎหมายว่าด้วยการทะเบียนราษฎร เช่น คนต่างด้าว ห้างหุ้นส่วนสามัญ หรือ คณะบุคคลที่ไม่ใช่นิติบุคคล กองมรดกที่ยังไม่ได้แย่ง
(2) กรณีบุคคลธรรมดาที่ประสงค์จะจดทะเบียนเป็นผู้ประกอบการจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม หรือ ภาษีธุรกิจเฉพาะ
(3) กรณีเป็นผู้ประกอบการที่จดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มหรือภาษีธุรกิจเฉพาะอยู่ก่อนวันที่ 1 ตุลาคม 2546
นิติบุคคล
ผู้มีหน้าที่เสียภาษีเงินได้นิติบุคคล ได้แก่ บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคล ที่จดทะเบียนตามประมวลกฎหมายแพ่ง และพาณิชย์ รวมถึงนิติบุคคลอื่นๆ ที่ไม่ได้จดทะเบียนตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ด้วย ดังนี้
บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลที่มีหน้าที่เสียภาษีเงินได้นิติบุคคล มีดังนี้
(1) บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลที่ตั้งขึ้นตามกฎหมายไทย
(2) บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลที่ตั้งขึ้นตามกฎหมายต่างประเทศ
(3) กิจการซึ่งดำเนินการเป็นทางค้า หรือหากำไร
(4) กิจการร่วมค้า (Joint Venture)
(5) มูลนิธิหรือสมาคมที่ประกอบกิจการซึ่งมีรายได้แต่ไม่รวมถึงมูลนิธิหรือสมาคมที่รัฐมนตรีประกาศกำหนดให้เป็นองค์การหรือสถานสาธารณกุศล
(6) นิติบุคคลที่อธิบดีกำหนดโดยอนุมัติรัฐมนตรีและประกาศในราชกิจจานุเบกษาให้เป็นบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลตามประมวลรัษฎากร
ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติม ผู้หน้าที่เสียภาษี กรรมสรรพากร
ผู้จ่ายเงินได้
ผู้จ่ายเงินได้ซึ่งมีหน้าที่หักภาษี ณ ที่จ่าย แต่ไม่มีหน้าที่ต้องเสียภาษีเงินได้ ซึ่งเป็นนิติบุคคลที่มีหน้าที่หักภาษี ณ ที่จ่าย เช่น นายจ้างที่จ่ายเงินเดือนพนักงาน ต้องมีเลขประจำตัวผู้เสียภาษีเพื่อใช้ในการหักและนำส่งภาษีอย่างถูกต้อง
ทั้งนี้ ผู้มีหน้าที่ต้องขอเลขประจำตัวผู้เสียภาษีอากร ต้องยื่นขอมีเลขประจำตัวผู้เสียภาษีอากรภายใน 60 วัน
เลขประจำตัวผู้เสียภาษี ขอได้อย่างไรบ้าง?
หลังจากตรวจสอบแล้วว่า ตนเองนั้น เป็นผู้มีหน้าที่เสียภาษีอากร ที่ยังคงต้องขอมีเลขประจำตัวผู้เสียภาษีอากรหรือไม่แล้ว หากอยู่ในกลุ่มที่ต้องขอมี ต้องเตรียมเอกสาร และสามารถยื่นคำร้องตามสถานที่ยื่นคำร้องได้ตามตารางที่แนบมาให้ ดังนี้
ประเภทผู้เสียภาษี |
การขอมีเลขประจำตัวผู้เสียภาษีอากร |
||
กำหนดเวลา |
แบบคำร้อง |
สถานที่ยื่นคำร้อง |
|
1. ผู้มีหน้าที่เสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา(1) กรณีไม่มีเลขประจำตัวประชาชนตามกฎหมายว่าด้วยการทะเบียนราษฎร เช่น คนต่างด้าว ห้างหุ้นส่วนสามัญหรือคณะบุคคลที่มิใช่นิติบุคคล กองมรดก ที่ยังมิได้แบ่ง(2) กรณีบุคคลธรรมดาที่ประสงค์จะจดทะเบียนเป็นผู้ประกอบการจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มหรือภาษีธุรกิจเฉพาะ(3) กรณีเป็นผู้ประกอบการที่จดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มหรือภาษีธุรกิจเฉพาะอยู่ก่อนวันที่ 1 ตุลาคม 2546 |
ภายใน 60 วัน นับแต่วันที่มีเงินได้พึงประเมิน |
(1) บุคคลธรรมดาใช้แบบ ล.ป.10.1 (2) คณะบุคคลใช้แบบ ล.ป.10.2 |
ก. ในกรุงเทพมหานครให้ยื่น ณ สำนักงานสรรพากรพื้นที่หรือสำนักงานสรรพากรพื้นที่สาขา (เขต) ที่ผู้ยื่นคำร้องมีภูมิลำเนาอยู่ ข. ในจังหวัดอื่นให้ยื่น ณ สำนักงานสรรพากรพื้นที่สาขา (อำเภอ) ที่ผู้ยื่นคำร้องมีภูมิลำเนาอยู่กรณีผู้เสียภาษีอากรที่เป็นบุคคลธรรมดา ไม่สะดวกที่จะยื่นคำร้อง ณ สถานที่ดังกล่าวข้างต้น จะยื่น ณ สำนักงานสรรพากรพื้นที่สาขา แห่งใดแห่งหนึ่งในท้องที่ของจังหวัดที่มีภูมิลำเนาอยู่หรือ จะยื่น ณ สำนักงานสรรพากรพื้นที่หรือสำนักงานสรรพากรพื้นที่สาขา แห่งใดแห่งหนึ่งในกรุงเทพมหานครก็ได้ |
2. ผู้มีหน้าที่เสียภาษีเงินได้นิติบุคคล |
ภายใน 60 วัน นับแต่วันที่ได้จดทะเบียนเป็นนิติบุคคลไทยหรือ วันที่นิติบุคคลต่างประเทศเริ่มประกอบกิจการ ในประเทศไทย |
แบบ ล.ป.10.3 |
ก. ในกรุงเทพมหานครให้ยื่น ณ สำนักงานสรรพากรพื้นที่ หรือสำนักงานสรรพากรพื้นที่สาขา (เขต) ในท้องที่ที่สำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ ข. ในจังหวัดอื่นให้ยื่น ณ สำนักงานสรรพากรพื้นที่สาขา (อำเภอ) ในท้องที่ที่สำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ กรณีเป็นผู้มีหน้าที่เสียภาษีเงินได้นิติบุคคลที่อยู่ในความดูแลรับผิดชอบของสำนักบริหารภาษีธุรกิจขนาดใหญ่สามารถยื่น ณ สำนักบริหารภาษีธุรกิจขนาดใหญ่ได้อีกแห่งหนึ่ง |
3. ผู้จ่ายเงินได้ซึ่งมีหน้าที่หักภาษี ณ ที่จ่าย แต่ไม่มีหน้าที่ต้องเสียภาษีเงินได้ |
ภายใน 60 วัน ก่อนวันจ่ายเงินได้ |
แบบ ล.ป.10.4 |
ก. ในกรุงเทพมหานครให้ยื่น ณ สำนักงานสรรพากรพื้นที่ หรือสำนักงานสรรพากรพื้นที่สาขา (เขต) ที่ผู้จ่ายเงินได้มีภูมิลำเนาอยู่หรือที่สำนักงานของผู้จ่ายเงินได้ตั้งอยู่ ข. ในจังหวัดอื่นให้ยื่น ณ สำนักงานสรรพากรพื้นที่สาขา (อำเภอ) ที่ผู้จ่ายเงินได้มีภูมิลำเนาอยู่หรือที่สำนักงานของผู้จ่ายเงินได้ตั้งอยู่ |
เอกสารที่ต้องแนบพร้อมกับแบบคำร้องการขอมีเลขประจำตัวผู้เสียภาษีอากร
ประเภทบุคคลธรรมดา (แนบพร้อมกับแบบ ล.ป.10.1)
- ภาพถ่ายใบสำคัญคนต่างด้าว / หนังสือเดินทาง / บัตรประจำตัวประชาชน / บัตรประจำตัวข้าราชการ
- ภาพถ่ายสำเนาทะเบียนบ้านของผู้เสียภาษี / ผู้จัดการมรดก
- ภาพถ่ายคำสั่งศาลแต่งตั้งผู้จัดการมรดก
ประเภทคณะบุคคล (แนบพร้อมกับแบบ ล.ป.10.2)
- ภาพถ่ายบัตรประจำตัวประชาชน / ใบสำคัญคนต่างด้าว / หนังสือเดินทางของผู้มีอำนาจจัดการและผู้ร่วมคณะทุกคน
- ภาพถ่ายสำเนาทะเบียนบ้านของที่ตั้งสถานประกอบการ
- ภาพถ่ายสัญญาหรือบันทึกข้อตกลงในการจัดตั้งคณะบุคคลหรือห้างหุ้นส่วนสามัญ (ถ้ามี)
ประเภทนิติบุคคล (แนบพร้อมกับแบบ ล.ป.10.3)
- ภาพถ่ายสำเนาทะเบียนบ้านที่ใช้เป็นสถานประกอบการของสำนักงานใหญ่
- ภาพถ่ายหนังสือรับรองการจดทะเบียนนิติบุคคล
- ภาพถ่ายหนังสือรับรองการประกอบกิจการในประเทศไทย
- ภาพถ่ายหนังสือสัญญาประกอบกิจการร่วมกัน
- ภาพถ่ายหนังสือสัญญาแต่งตั้งลูกจ้างหรือผู้ทำการแทนฯในประเทศไทย
- ภาพถ่ายบัตรประจำตัวประชาชน / ใบสำคัญคนต่างด้าว / หนังสือเดินทางของกรรมการผู้จัดการ /หุ้นส่วนผู้จัดการผู้มีอำนาจจัดการหรือลูกจ้างผู้ทำการแทนฯ ในประเทศไทย
- ภาพถ่ายหนังสือยินยอมให้ใช้สถานที่ (กรณีที่ใช้สถานที่ของบุคคลอื่นเป็นสถานประกอบการ)
- ภาพถ่ายบัตรประจำตัวผู้เสียภาษีอากรของผู้มีอำนาจจัดการ / ลูกจ้าง / ผู้ทำการแทนฯ ในประเทศไทย
ประเภทผู้จ่ายเงินได้ (แนบพร้อมกับแบบ ล.ป.10.4)
- ภาพถ่ายสำเนาทะเบียนบ้านที่ใช้เป็นที่ตั้งสำนักงาน
- ภาพถ่ายหนังสือรับรองการจดทะเบียนนิติบุคคล / ใบอนุญาตจัดตั้งโรงเรียนราษฎร์
- ภาพถ่ายบัตรประจำตัวประชาชน / ใบสำคัญคนต่างด้าว / หนังสือเดินทางของผู้มีอำนาจจัดการ
หมดปัญหาความยุ่งยากในการจัดทำใบกำกับปัญหาอิเล็กทรอนิกส์ (e-Tax) ไม่รู้ต้องเริ่มอย่างไรไง ถูกตามมาตรฐานกรมสรรพากรหรือไม่ รวมทั้งไม่ต้องพัฒนาระบบ เเละลงทุนระบบ Server เองที่ต้องใช้เงินลงทุนเป็นจำนวนมาก ให้ EtaxEasy เป็นผู้จัดทำ จัดส่ง เเละจัดเก็บเอกสารสำคัญของท่าน เราพร้อมบริการท่านตั้งเเต่ต้นจนจบ ทำให้เรื่องภาษีที่ยุ่งยากกลายเป็นเรื่องง่ายด้วย EtaxEasy