e-Tax invoice & e-Receipt

ธุรกิจของคุณควรเริ่มใช้ e-Tax Invoice & e-Receipt แล้วหรือยัง?

ธุรกิจของคุณควรเริ่มใช้ e-Tax Invoice & e-Receipt แล้วหรือยัง? การทำธุรกิจในปัจจุบันไม่ใช่เรื่องง่ายเหมือนในอดีต ทั้งจากการแข่งขันที่สูงขึ้น พฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว และการเปลี่ยนผ่านของระบบต่าง ๆ สู่ยุคดิจิทัล หนึ่งในเรื่องสำคัญที่ผู้ประกอบการต้องปรับตัวให้ทัน คือ ระบบภาษีอิเล็กทรอนิกส์ หรือที่รู้จักกันในชื่อ e-Tax Invoice & e-Receipt ตามกฎหมายภาษีของประเทศไทย หากธุรกิจมีรายได้เกิน 1.8 ล้านบาทต่อปี จะต้องจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) และมีหน้าที่ออกใบกำกับภาษีให้กับลูกค้า โดยการจัดทำใบกำกับภาษีมักอยู่ในรูปแบบกระดาษ และต้องเก็บรวบรวมไว้เพื่อจัดส่งให้กรมสรรพากร ทุกวันที่ 15 ของเดือนถัดไป และแบบออนไลน์ ทุกวันที่ 23 ของเดือนถัดไป (ตรวจสอบเพิ่มเติม: https://www.rd.go.th/62348.html) อย่างไรก็ตาม ปัจจุบัน กรมสรรพากรได้ส่งเสริมให้ผู้ประกอบการเปลี่ยนมาใช้ระบบใบกำกับภาษีอิเล็กทรอนิกส์ (e-Tax Invoice) ซึ่งเป็นรูปแบบใหม่ของการจัดทำและส่งเอกสารภาษีในระบบออนไลน์ โดยใช้ลายเซ็นดิจิทัลและผ่านการรับรองจากระบบกลางของกรมสรรพากร จึงไม่น่าแปลกใจที่ผู้ประกอบการหลายรายเริ่มตั้งคำถามว่า “ธุรกิจของเราควรเริ่มเปลี่ยนมาใช้ e-Tax Invoice แล้วหรือยัง?”บทความนี้จะพาคุณไปทำความเข้าใจระบบ e-Tax ตั้งแต่พื้นฐาน ข้อดี-ข้อเสีย รวมถึงแนวทางในการตัดสินใจว่าคุณควรเริ่มต้นใช้งานหรือไม่? สารบัญ e-Tax Invoice &…

ระบบ e-Tax Invoice & e-Receipt รู้ไวใช้ก่อนดีกว่าอย่างไร?

เพื่อเพิ่มโอกาสที่ดีกว่าในการทำธุรกิจ โดยสำหรับการเลือกใช้งานระบบ e-Tax Invoice & e-Receipt ใบกำกับภาษีอิเล็กทรอนิกส์ และใบเสร็จรับเงินอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งเป็นระบบที่ใช้ในการจัดทำใบกำกับภาษี และใบเสร็จรับเงินในรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์ ช่วยลดการใช้กระดาษลดเวลาในการทำงาน ได้รับข้อมูลที่ถูกต้อง และเพิ่มประสิทธิภาพในการจัดการเอกสาร และเพื่อภาพลักษณ์ที่ดีทางธุรกิจ ระบบ e-Tax Invoice & e-Receipt คืออะไร ระบบใบกำกับภาษีอิเล็กทรอนิกส์ (e-Tax Invoice) และใบรับอิเล็กทรอนิกส์ (e-Receipt) คือ การจัดทำข้อมูลใบกำกับภาษี รวมถึงใบเพิ่มหนี้ ใบลดหนี้ และใบรับ ให้อยู่ในรูปข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ เช่น Microsoft Word, Microsoft Excel, PDF หรือ PDF/A-3 ที่ได้ลงลายมือชื่อดิจิทัล (Digital Signature) ส่งมอบแก่ผู้ซื้อสินค้าหรือผู้รับบริการ และสำหรับการนำส่งข้อมูลให้กรมสรรพากรต้องจัดทำข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ให้อยู่ในรูปแบบ XML File ตามมาตรฐานเท่านั้น (ETDA, สํานักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์) ความแตกต่างระหว่าง e-Tax Invoice by Email และ…

ประเภทสินค้าและร้านค้าที่เข้าร่วมโครงการ EasyE-receipt 2568

ประเภทสินค้าและร้านค้าที่เข้าร่วมโครงการ Easy E-receipt 2568 โครงการ Easy E-Receipt 2568 เปิดโอกาสให้ผู้เสียภาษีสามารถนำค่าใช้จ่ายจากการซื้อสินค้าและบริการมาหักลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาได้สูงสุดถึง 50,000 บาท โดยแบ่งเป็น 30,000 บาทสำหรับสินค้าและบริการทั่วไป และอีก 20,000 บาทสำหรับสินค้าจากวิสาหกิจชุมชนและ OTOP ซึ่งโครงการเริ่มวันที่ 16 มกราคม 2568 จนถึง วันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2568 เป็นต้น โดยมีเงื่อนไขตามที่กรมสรรพากรกำหนดเท่านั้น โดยร้านค้าที่เข้าร่วมจะต้องป็นร้านที่ใช้ระบบ E-tax invoice & e-receipt ในการออกใบกำกับภาษีอิเล็กทรอนิกส์ (E-tax invoice) หรือเอกสารภาษีต่างๆ ในรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์เท่านั้น และต้องเป็นร้านที่อยู่ภายในใต้ของกำหนด ประเภทสินค้าและร้านค้าที่เข้าร่วมโครงการ Easy E-receipt 2568 ที่ถูกกำหนดไว้แต่เพียงเท่านั้น โดยประเภทสินค้าหรือบริการที่เข้าร่วม มีดังนี้ ประเภทสินค้าและร้านค้าที่เข้าร่วมโครงการ Easy E-receipt 2568​ มีดังนี้ 1. ห้างสรรพสินค้าและซูเปอร์มาร์เก็ต Central Tops Lotus’s Makro Big C Robinson GO Wholesale The Mall Emporium Paragon…

ระบบ D-MyTax (Digital MyTax) คืออะไร

ระบบ D-MyTax (Digital MyTax) คืออะไร ถึงเวลา ‘ยื่นภาษี’ โดยกรมสรรพากร ได้เปิดให้ยื่นแบบแสดงรายการภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ประจำปีภาษี 2567 ภ.ง.ด. 90 และ ภ.ง.ด. 91 ผ่านช่องทางออนไลน์ด้วย ระบบ Digital Mytax หรือ D-MyTax ได้ตั้งแต่วันนี้ ถึง วันที่ 8 เมษายน 2568 ส่วนการยื่นภาษีแบบกระดาษ สามารถยื่นแบบแสดงรายการภาษีได้ที่สำนักงานสรรพากร ซึ่งจะสิ้นสุด วันที่ 31 มี.ค.2568 กรมสรรพากรได้เปิดตัวระบบใหม่ที่ชื่อว่า “D-MyTax” เพื่อยกระดับการให้บริการด้านภาษีแก่ผู้เสียภาษีทั้งบุคคลธรรมดา และ นิติบุคคล ซึ่งโดยระบบนี้ออกแบบมาเพื่อรวมบริการด้านภาษีในรูปแบบ One Portal ที่ช่วยอำนวยความสะดวกให้ผู้เสียภาษีสามารถยืนยันตัวตนเพียงครั้งเดียว และเข้าถึงบริการภาษีทั้งหมดได้อย่างง่ายดาย สะดวก และปลอดภัย ระบบ D-MyTax ช่วยลดความยุ่งยากในการจัดการเอกสารและกระบวนการต่าง ๆ ทำให้ผู้ใช้ประหยัดทั้งเวลาและทรัพยากร ผู้เสียภาษีสามารถเข้าสู่ระบบได้ผ่านทางเว็บไซต์กรมสรรพากร www.rd.go.th โดยใช้ Digital…

สิทธิลดหย่อน easy e-receipt ปี 68

สิทธิลดหย่อน easy e-receipt ปี 68 เช็คสิทธิ์การหักลดหย่อนภาษีกับมาตรการ “Easy E-Receipt 2.0” ซึ่งเป็นโครงการที่กรมสรรพากรจัดขึ้นเพื่อส่งเสริมการใช้ใบกำกับภาษีและใบรับอิเล็กทรอนิกส์ (etax Invoice และ e-Receipt) โดยให้สิทธิประโยชน์ในการหักลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา สำหรับการซื้อสินค้าหรือรับบริการภายในประเทศ ระหว่างวันที่ 16 มกราคม 2568 ถึงวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2568 โดยสามารถหักลดหย่อนได้สูงสุด 50,000 บาท รายละเอียดของมาตรการ easy e-receipt ปี 68 มีดังนี้ ร้านค้าที่เข้าร่วมโครงการจะต้องเป็นร้านค้าที่จดทะเบียนในระบบภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) และสามารถออกใบกำกับภาษีอิเล็กทรอนิกส์ (etax Invoice & e-Receipt) ผ่านระบบของกรมสรรพากรได้เท่านั้น รูปแบบใบกำกับภาษีจะต้องเป็นใบกำกับภาษีอิเล็กทรอนิกส์ (etax Invoice & e-Receipt) เท่านั้น ใบกำกับภาษีแบบกระดาษไม่สามารถใช้ลดหย่อนภาษีได้ ผู้มีสิทธิ์เข้าร่วม ผู้ที่มีหน้าที่เสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาเท่านั้น ไม่รวมถึงห้างหุ้นส่วนสามัญหรือคณะบุคคลที่มิใช่นิติบุคคล วงเงินหักลดหย่อน สามารถหักลดหย่อนได้ตามจำนวนที่จ่ายจริง แต่ไม่เกิน 50,000…

ทำไมผู้ประกอบการต้องใช้ e-Tax Invoice & e-Receipt

ทำไมผู้ประกอบการต้องใช้ e-Tax Invoice & e-Receipt สงสัยกันใช่มั้ยล่ะคะว่าทำไม? ถ้าพูดถึงเรื่องของภาษีในยุคที่มีเทคโนโลยีสมัยใหม่เข้ามามีบทบาทมากขึ้น ก็คงไม่พูดถึงระบบจัดการภาษี อย่างระบบ e-Tax invoice & e-Receipt แต่ก็ยังคงมีหลายคนหรือผู้ประกอบการหลายท่านที่ยังไม่เข้าใจในตัวระบบการใช้งาน บางคนเนี่ยไม่รู้เลยด้วยซ้ำว่า e-Tax คืออะไร ก็คงเป็นเรื่องเดิมๆที่เราพูดกันอยู่บ่อย ๆ ว่า e-Tax คืออะไร ใช้แล้วได้อะไร แต่วันนี้เราจะมาพูดถึงว่า ทำไมผู้ประกอบการต้องใช้ e-Tax Invoice & e-Receipt ถ้าคุณไม่อยากพลาดโอกาสในการสร้างยอดขาย ระบบ e-Tax invoice & e-Receipt ก็ยังเป็นอีกตัวเลือกสำคัญในการสร้างผลประกอบการให้กับธุรกิจของคุณ ทั้งได้การเพิ่มยอดขายจากโครงการส่งเสริมเศรษฐกิจของภาครัฐ easy e-receipt 2568 ซึ่งผู้ประกอบการหลายท่านที่ใช้งานระบบ e-Tax invoice & e-Receipt เพราะว่าผู้ประกอบการกลุ่มนี้มองเห็นถึงความคุ้มค่า และโอกาสต่าง ๆ ในการสร้างยอดขายให้กับทางธุรกิจของตัวเองเพื่อสร้างยอดขายได้มากขึ้น และด้วยเหตุผลหลายๆประการที่ผู้ประกอบการส่วนใหญ่เล็งเห็นถึงประโยชน์ที่จะได้รับ และตัดสินใจเลือกใช้ระบบ ำ-ธax invoice & e-Receipt แล้วจะมีเหตุผลอะไรล่ะ?…

ร้านค้าที่เข้าร่วมโครงการ EASY E-Receipt 2568

ร้านค้าที่เข้าร่วมโครงการ EASY E-Receipt 2568 กลับมาอีกครั้งอย่างเป็นทางการกับโครงการดี ๆ จากภาครัฐ กับโครงการลดหย่อนภาษี Easy E-Receipt 2568 หรือช้อปดีมีคืนที่หลาย ๆ คนเคยได้ยินกันนั้นเองค่ะ และในบทความนี้จะพามาดู ร้านค้าที่เข้าร่วมโครงการ EASY E-Receipt 2568 จะมีอะไรกันบ้างติดตามได้ที่บทความนี้เลยค่ะ โครงการ Easy e-Receipt 2568 เป็นมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลไทย โดยให้ประชาชนสามารถนำค่าใช้จ่ายจากการซื้อสินค้าและบริการมาลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาได้ โดยมีเงื่อนไข และ รายละเอียดดังนี้ ระยะเวลาโครงการ 16 มกราคม 2568 – 28 กุมภาพันธ์ 2568 วงเงินลดหย่อนภาษี สูงสุด 50,000 บาท แบ่งเป็น สินค้าและบริการทั่วไป สูงสุด 30,000 บาท (รวมถึงแพ็คเกจทัวร์ โรงแรม และที่พัก) สินค้าจากวิสาหกิจชุมชน (OTOP) สูงสุด 20,000 บาท เงื่อนไขสำคัญโครงการ EASY…

เตรียมพร้อมก่อนกลับมาของ มาตรการ Easy e-Receipt ปี68

มาเเน่! Easy e-Receipt ปี68 เตรียมความพร้อมสำหรับการกลับมาอีกครั้งกับมาตรการจากทางภาครัฐอย่าง โครงการ Easy e-Receipt ลดหย่อนภาษีได้สูงสุดถึง 50,000 บาท คาดการณ์ว่าเริ่มต้นโครงการ ช่วงมกราคม 2568 ซึ่งโดยโครงการ Easy e-Receipt เป็นมาตรการลดหย่อนภาษีที่กรมสรรพากรจัดทำขึ้นเพื่อส่งเสริมการใช้จ่ายภายในประเทศ และสนับสนุนการใช้เอกสารอิเล็กทรอนิกส์ผ่านระบบ e-Tax Invoice & e-Receipt โดยมีรายละเอียดดังต่อไปนี้ค่ะ สิทธิประโยชน์ที่ได้รับกับโครงการ Easy e-Receipt สามารถหักลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาสำหรับปีภาษี 2568 (ยื่นแบบแสดงรายการภาษีในปี 2569) ตามค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นจริง หักลดหย่อนสูงสุดได้ไม่เกิน 50,000 บาท ซึ่งค่าใช้จ่ายที่สามารถนำมาลดหย่อนได้ต้องเป็นการซื้อสินค้าและบริการ ภายในประเทศไทย และออกใบกำกับภาษีเต็มรูปแบบในรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์ผ่านช่องทางระบบ e-Tax Invoice & e-Receipt คุณสมบัติของผู้มีสิทธิ เป็นผู้มีเงินได้ที่ต้องเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ยกเว้น ห้างหุ้นส่วนสามัญหรือคณะบุคคลที่มิใช่นิติบุคคล สินค้าและบริการที่สามารถใช้สิทธิลดหย่อน สามารถใช้สิทธิได้เฉพาะร้านค้าหรือบริการที่ออกใบกำกับภาษีอิเล็กทรอนิกส์ Etax invoice & e-Receipt เท่านั้น ค่าหนังสือ หนังสือพิมพ์…

การจัดการภาษี เทคโนโลยีช่วยให้จัดการง่ายขึ้นอย่างไร?

เทคโนโลยีที่ช่วยให้ การจัดการภาษี ง่ายขึ้น ในยุคที่เทคโนโลยีมีบทบาทสำคัญในทุกด้านของชีวิตประจำวัน การจัดการภาษี ซึ่งเคยเป็นเรื่องที่ซับซ้อนและใช้เวลาอย่างมาก ได้รับการเปลี่ยนแปลงอย่างมีนัยสำคัญด้วยนวัตกรรมต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นการประมวลผลข้อมูลแบบอัตโนมัติ การใช้ซอฟต์แวร์ที่มีความสามารถสูง หรือแม้แต่ระบบคลาวด์และปัญญาประดิษฐ์ (AI) ทั้งหมดนี้ช่วยให้การบริหารจัดการภาษีง่ายขึ้นสำหรับทั้งบุคคลและธุรกิจ บทความนี้จะสำรวจเทคโนโลยีหลักที่ช่วยให้การจัดการภาษีสะดวกและมีประสิทธิภาพมากขึ้น 1. ซอฟต์แวร์ หนึ่งในเทคโนโลยีที่สำคัญที่สุดคือซอฟต์แวร์การจัดการภาษี เช่น QuickBooks, Xero, หรือ SAP ซึ่งออกแบบมาเพื่อช่วยบุคคลและธุรกิจในการคำนวณภาษี การยื่นภาษี และการตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูล ระบบเหล่านี้สามารถเชื่อมต่อกับบัญชีธนาคารเพื่อนำเข้าข้อมูลทางการเงินโดยอัตโนมัติ ช่วยลดข้อผิดพลาดในการกรอกข้อมูล นอกจากนี้ยังมีฟีเจอร์การแจ้งเตือนกำหนดเวลาชำระภาษี และการจัดทำรายงานเพื่อการตรวจสอบย้อนหลัง ทำให้ผู้ใช้งานมั่นใจได้ว่าจะไม่มีการพลาดกำหนดการหรือการเสียค่าปรับที่ไม่จำเป็น 2. ระบบการยื่นภาษีออนไลน์ (E-Filing) ในหลายประเทศ รวมถึงประเทศไทย การยื่นภาษีออนไลน์หรือระบบ e-Filing ได้กลายเป็นวิธีที่ได้รับความนิยมอย่างมาก เนื่องจากช่วยลดขั้นตอนการจัดการเอกสารแบบเดิม และเพิ่มความสะดวกให้กับผู้เสียภาษี ตัวอย่างเช่น เว็บไซต์ของกรมสรรพากรที่อนุญาตให้ผู้ใช้งานกรอกแบบฟอร์มและส่งข้อมูลได้ในไม่กี่นาที ระบบยังมีฟังก์ชันการคำนวณอัตโนมัติและการตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลเบื้องต้น ช่วยลดเวลาและความซับซ้อน 3. การใช้เทคโนโลยีคลาวด์ ระบบคลาวด์ช่วยให้ธุรกิจสามารถเก็บข้อมูลภาษีทั้งหมดในที่เดียวและเข้าถึงได้จากทุกที่ทุกเวลา ผู้ใช้งานสามารถแชร์ข้อมูลกับนักบัญชีหรือทีมงานที่เกี่ยวข้องได้อย่างง่ายดายผ่านระบบออนไลน์ ข้อดีของการใช้ระบบคลาวด์คือความปลอดภัยของข้อมูล การป้องกันการสูญหายของเอกสาร และความยืดหยุ่นในการขยายระบบเมื่อธุรกิจเติบโตขึ้น นอกจากนี้ยังช่วยให้สามารถสำรองข้อมูลและกู้คืนได้ในกรณีฉุกเฉิน 4. การประยุกต์ใช้ปัญญาประดิษฐ์ (AI)…

ยื่นภาษีนิติบุคคลครั้งเเรก ต้องรู้อะไรบ้าง

ยื่นภาษีนิติบุคคลครั้งเเรก ต้องรู้อะไรบ้าง ถ้าพูดถึงการดำเนินธุรกิจในรูปแบบนิติบุคคลมาพร้อมกับความรับผิดชอบที่สำคัญมากหลายประการ หนึ่งในนั้น คือ การจัดการภาษี ซึ่งเป็นขั้นตอนที่ช่วยให้ธุรกิจดำเนินไปได้อย่างถูกต้องตามกฎหมาย โดยเฉพาะเมื่อถึงเวลาที่ต้องยื่นภาษีครั้งแรก ผู้ประกอบการนิติบุคคลจะต้องให้ความสำคัญกับการกรอกข้อมูลที่ถูกต้อง รวมถึงการนำ “ภาษีขาย” มาใส่ในแบบฟอร์มการยื่นแบบให้ครบถ้วน บทความนี้เรามาพูดถึงเรื่องของการ ยื่นภาษีนิติบุคคลครั้งเเรก ต้องรู้อะไรบ้าง กันค่ะ หลังจากที่นิติบุคคลจดทะเบียนกับกรมพัฒนาธุรกิจการค้าและได้รับเลขทะเบียนนิติบุคคล 13 หลัก ซึ่งใช้เป็นเลขประจำตัวผู้เสียภาษีแล้ว จำเป็นต้องดำเนินการยื่นภาษีเงินได้นิติบุคคลปีละ 2 ครั้ง ดังนี้: การยื่นภาษีครึ่งปี (ภ.ง.ด.51) ต้องยื่นภายใน 2 เดือนหลังจากสิ้นสุด 6 เดือนแรกของรอบบัญชี โดยคำนวณจากประมาณการกำไรสุทธิครึ่งปี หากไม่ยื่นหรือยื่นล่าช้า อาจถูกปรับหรือเสียเบี้ยปรับตามกฎหมาย การยื่นภาษีประจำปี (ภ.ง.ด.50) ต้องยื่นภายใน 150 วันหลังจากสิ้นสุดรอบบัญชี 12 เดือน เช่น หากรอบบัญชีสิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม ต้องยื่นภายในวันที่ 30 พฤษภาคมของปีถัดไป . ภาษีขายคืออะไร? ภาษีขายเป็นส่วนหนึ่งของภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) ที่ธุรกิจเรียกเก็บจากลูกค้าเมื่อขายสินค้า หรือให้บริการในแต่ละธุรกรรม ตัวเลขนี้ไม่ใช่รายได้ของธุรกิจ แต่เป็นหน้าที่ที่ธุรกิจต้องเก็บไว้เพื่อส่งต่อให้กับกรมสรรพากรในภายหลัง…